Categories
Uncategorized

พนันบอลอินโดอย่างมั่นใจด้วยการเรียนรู้ค่าน้ำบอล

การพนันบอลอินโดและการคํานวณค่าน้ำบอลเป็นเรื่องที่มือใหม่ในวงการพนันบอลออนไลน์มักสับสน เนื่องจากกติกาและกฎเกณฑ์ต่างๆ มีความซับซ้อน รวมถึงค่าน้ำบอลที่มีหลากหลายประเภทและแตกต่างกันไปตามโซนของโต๊ะบอลแต่ละแห่ง

การพนันบอลอินโด

เพื่อให้ผู้เริ่มต้นได้เข้าใจกติกาและสามารถพนันบอลอินโดอย่างถูกต้องและมั่นใจ บทความนี้จะพาท่านผู้อ่านไปทำความรู้จักกับค่าน้ำบอลอย่างละเอียด ตั้งแต่ค่าน้ำบอลคืออะไร, แบ่งประเภทอย่างไร จนถึงวิธีการคํานวณค่าน้ำบอลในแบบต่างๆ เช่น ค่าน้ำบอลอินโดนีเซีย, ค่าน้ำมาเลย์, ค่าน้ำฮ่องกง เป็นต้น เพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม

ค่าน้ำบอล คืออะไร

ค่าน้ำบอล เป็นค่าธรรมเนียมที่เว็บแทงบอลตั้งขึ้นมาไว้หัก % จากลูกค้าหากชนะเดิมพัน เช่นเดียวกับเกมพนันอื่นๆ ที่มีการหักค่าคอมมิชชั่น โดยค่าน้ำหรือราคาบอลจะถูกแบ่งด้วยสี, สัญลักษณ์ หรือข้อความ ที่จะถูกกำกับเอาไว้ด้านหลังของราคาต่อรองบอล ซึ่งราคาน้ำบอลของโต๊ะบอลทั่วไปกับเว็บแทบบอลออนไลน์จะมีความแตกต่างกันไป

ค่าน้ำบอล คืออะไร

โดยสรุปค่าน้ำบอล ก็คือ ค่าธรรมเนียมหรือค่าคอมมิชชั่นที่เว็บไซต์พนันบอลคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดเงินรางวัลที่นักพนันได้รับ ซึ่งอัตราค่าน้ำจะอยู่ประมาณ 5-10% ของเงินรางวัล เพื่อเป็นรายได้ให้กับทางเว็บไซต์

ส่วนราคาต่อรองบอลที่ถูกกำกับเอาไว้ด้วยสี, สัญลักษณ์ หรือข้อความนั้น จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงค่าราคาน้ำบอลที่ทางเว็บไซต์กำหนดไว้ ซึ่งผู้เล่นจำเป็นต้องศึกษาและทำความเข้าใจก่อนวางเดิมพัน มิฉะนั้นอาจจะถูกเอาเปรียบจากการตั้งราคาน้ำได้

ค่าน้ำบอลโต๊ะบอลทั่วไป

ค่าน้ำบอลโต๊ะบอลทั่วไป

ในส่วนของโต๊ะบอลอินโดทั่วไป จะมีวิธีการคิดค่าน้ำบอลออกเป็น 5 ราคาด้วยกัน ได้แก่ ราคาขาว, ราคาลบสิบ, ราคาลบห้า, ราคาบวกสิบ และราคาเสมอ โดยวิธีการคิดค่าน้ำแบบต่าง ๆ จะมีดังนี้

ราคาขาว

  • แทงทีมต่อ 100 บาท หากชนะในราคาต่อรองจะได้เงิน 80 บาท หากแพ้จะเสียเงิน 100 บาท
  • แทงทีมรอง 100 บาท หากชนะในราคาต่อรองจะได้เงิน 100 บาท หากแพ้จะเสียเงิน 100 บาท

ราคาลบสิบ (-10)

  • แทงทีมต่อหรือทีมรอง 100 บาท หากชนะในราคาต่อรองจะได้เงิน 90 บาท หากแพ้จะเสียเงิน 100 บาท

ราคาลบห้า (-5)

  • แทงทีมต่อ 100 บาท หากชนะในราคาต่อรองจะได้เงิน 100 บาท หากแพ้จะเสียเงิน 100 บาท
  • แทงทีมรอง 100 บาท หากชนะในราคาต่อรองจะได้เงิน 80 บาท หากแพ้จะเสียเงิน 100 บาท

ราคาบวกสิบ (+10)

  • แทงทีมต่อ 110 บาท หากชนะในราคาต่อรองจะได้เงิน 80 บาท หากแพ้จะเสียเงิน 110 บาท
  • แทงทีมรอง 90 บาท หากชนะในราคาต่อรองจะได้เงิน 100 บาท หากแพ้จะเสียเงิน 90 บาท

จากการยกตัวอย่างวิธีคิดค่าน้ำแบบต่างๆ ข้างต้น จะเห็นได้ว่าในโต๊ะบอลทั่วไปจะมีการหักค่าค่าน้ำบอลในอัตราที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละประเภทราคาน้ำที่ผู้เล่นเลือก ซึ่งผู้เล่นจำเป็นต้องทำความเข้าใจและพิจารณาให้ถี่ถ้วนเพื่อป้องกันการถูกเอาเปรียบทางด้านตัวเลข

ค่าน้ำบอลเว็บแทงบอลออนไลน์

ในส่วนของเว็บแทงบอลออนไลน์จะมีการคิดค่าน้ำบอลที่ต่างออกไปตรงที่จะแยกเป็นสองส่วน คือ

  1. การคูณอัตราจ่าย
  2. ราคาต่อรอง

โดยทุกเกมการแข่งขันจะมีตัวเลขทศนิยมกำกับไว้ที่ราคาต่อรอง เพื่อบอกถึงอัตราจ่ายหรือผลตอบแทนที่นักพนันจะได้รับ สำหรับการคิดก็แค่เอาเงินเดิมพันที่วางไว้มาคูณกับตัวเลขที่วางเดิมพัน เช่น แทงบอล 100 บาท หากชนะจะได้เงิน 210 บาท เป็นต้น

นอกจากนี้ อัตราจ่ายปกติจะอยู่ในช่วง 0.27-115 หรือมากกว่านี้ แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงทุก 2 นาทีหรือที่เรียกว่า ราคาไหล ทำให้นักพนันมืออาชีพมักเลือกแทงบอลช่วงก่อนจบ 5 นาทีสุดท้ายของเกมเพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะ การคํานวณค่าน้ำบอลออนไลน์จึงง่ายกว่าการคํานวณค่าน้ำบอลในโต๊ะบอลทั่วไป เพราะไม่ต้องมานั่งคํานวณหาอัตราการหักน้ำเช่น -10, -5 หรือ +10 แบบยุ่งยาก

โดยสิ่งที่ผู้เล่นจำเป็นต้องทำก็คือ ดูราคาต่อรองให้ดีเสียก่อนวางเดิมพัน แล้วคูณกับเงินเดิมพันตามจำนวนที่ต้องการวาง ก็จะได้คํานวณค่าน้ำและผลตอบแทนที่จะได้รับได้ในทันที

ตัวอย่างเช่น แทงบอล 100 บาท อัตราจ่าย 1.95 ก็จะได้ 100 x 1.95 = 195 บาท (เงินที่จะได้รับหากชนะ) จะเห็นได้ว่าค่าน้ำจะถูกหักไว้ที่ 5% โดยอัตโนมัติ ทำให้ง่ายต่อการคํานวณและเข้าใจสำหรับมือใหม่ หรือแม้แต่นักพนันทั่วไป

อัตราต่อรองแบบอินโดนีเซียคืออะไร

อัตราต่อรองแบบอินโดนีเซีย หรือ Indonesian Odds เป็นรูปแบบหนึ่งของอัตราต่อรองในการเดิมพันกีฬาออนไลน์ ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในเว็บแทงบอลอินโดนีเซีย รวมถึงเว็บไซต์พนันกีฬาต่างประเทศบางแห่งที่เปิดให้บริการลูกค้าชาวอินโดนีเซียด้วยเช่นกัน

อัตราต่อรองแบบอินโดนีเซียจะคล้ายคลึงกับอัตราต่อรองแบบอเมริกัน แต่มีความแตกต่างตรงที่นําตัวเลขอัตราต่อรองมาหารด้วย 100 ทำให้อัตราได้เปรียบเสียเปรียบของนักพนันจะสูงขึ้น

ข้อดีของอัตราต่อรองแบบอินโดนีเซียคือ เข้าใจง่ายและคํานวณได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังให้อัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าการเดิมพันทั่วไป ดึงดูดใจนักพนันจำนวนมาก เราได้รวบรวมรายชื่อเว็บไซต์พนันฟุตบอลออนไลน์ที่ดีที่สุดในอินโดนีเซียที่เราจัดมาให้มากถึง 10 เว็บ พร้อมบอกรายละเอียดแนะนำข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบของแต่ละเว็บไซต์ให้ได้อ่านกันอย่างจุใจโดยคุณสามารถเข้าไปดูได้ที่ https://www.bsc.news/post/daftar-10-situs-judi-bola-terbesar-terpercaya-terbaik-resmi เพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาดกับแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอย่างมากจากคนอินโดนีเซีย

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียก็คืออัตราเสี่ยงสูง และนักพนันบางส่วนอาจสับสนกับอัตราต่อรองแบบอเมริกันได้ ดังนั้นผู้เล่นควรศึกษาวิธีการใช้งานให้เข้าใจก่อนเดิมพัน

อัตราต่อรองแบบอินโดนีเซียคืออะไร

อัตราการต่อรองแบบอินโดนีเซียเป็นอย่างไร

อัตราการต่อรองแบบอินโดนีเซียจะปรากฏให้เห็นเป็นตัวเลข 2 รูปแบบหลักๆ บนหน้าเว็บไซต์พนันกีฬาออนไลน์ ดังนี้

  • ตัวเลขบวกสีดำ เช่น 1.20, 1.50, 3.00 เป็นต้น ซึ่งแสดงถึงอัตราผลตอบแทนที่นักพนันจะได้รับในกรณีที่เดาผลการแข่งขันได้อย่างถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น หากอัตราต่อรองอยู่ที่ 1.50 แปลว่าหากเดิมพัน 100 บาท ก็จะได้รับเงินรางวัลคืนมา 150 บาท
  • ตัวเลขลบสีแดง เช่น -1.20, -1.50, -3.00 เป็นต้น ซึ่งแสดงถึงจำนวนเงินที่นักพนันจำเป็นต้องเสี่ยง เพื่อที่จะได้รับเงินรางวัลตอบแทนกลับคืนมา 100 บาท เช่น หากอัตราต่อรองอยู่ที่ -1.50 หมายถึงนักพนันจำเป็นต้องเสี่ยงเงินเดิมพัน 150 บาท จึงจะได้รับเงินรางวัลตอบแทน 100 บาทกลับคืนมา

ดังนั้น อัตราต่อรองแบบอินโดนีเซียจึงแสดงเป็น 2 สี เพื่อให้นักพนันเข้าใจและเลือกวางเดิมพันได้ง่าย ตัวเลขบวกหมายถึงผลตอบแทนที่จะได้รับ ส่วนตัวเลขลบหมายถึงความเสี่ยงที่จะต้องสูญเสีย เพื่อให้เข้าใจการใช้งานอัตราต่อรองนี้ ขอยกตัวอย่างวิธีคํานวณดังนี้

ตัวอย่างที่ 1 อังกฤษ กับ สเปน โดยอังกฤษถูกระบุไว้ที่อัตราต่อรองอินโดนีเซียที่ -5.00 ซึ่งหมายความว่า คุณจำเป็นต้องแทงอังกฤษ 5 หน่วยถึงจะได้กําไร 1 หน่วย เช่น ระบบจะหักเงินคุณ 500 บาทหากคุณแทงอังกฤษ และถ้าคุณจะชนะคุณถึงจะได้เงินรางวัล 100 บาท

ตัวอย่างที่ 2 เยอรมัน กับ ฝรั่งเศส โดยเยอรมันถูกระบุไว้ที่อัตราต่อรองอินโดนีเซียที่ 3.00 ซึ่งหมายความว่า คุณจะได้รับเงินรางวัล 3 หน่วยด้วยทุน 1 หน่วย เช่น คุณแทงเยอรมัน 100 และคุณชนะคุณก็จะได้รับเงิน 300 บาท

จากตัวอย่างจะเห็นว่า การคํานวณอัตราต่อรองแบบอินโดนีเซียค่อนข้างง่าย เพียงแค่คูณตัวเลขที่กำหนดให้กับเงินเดิมพันที่วาง ผู้เล่นก็จะทราบยอดเงินที่ตนเองจะได้รับหรือสูญเสียได้อย่างรวดเร็ว

รูปแบบค่าน้ำบอลตามมาตรฐานสากล

นอกจากค่าน้ำบอลอินโดนีเซียแล้ว ยังมีค่าน้ำบอลอื่น ๆ ที่แตกต่างกันไปตามโซนของโต๊ะบอลที่ให้บริการ แต่ที่นิยมใช้อ้างอิงกันหรือเห็นได้บ่อยมีอยู่ 3 แบบด้วยกัน ดังนี้

ค่าน้ำมาเลย์ (MY)

ค่าน้ำมาเลย์ (MY)

ค่าน้ำมาเลย์ หรือ ที่เรียกว่า ค่าน้ำดำ-แดง เนื่องจากคู่บอลที่ใช้ราคาน้ำมาเลย์นั้น จะแบ่งราคาออกเป็น 2 สี ดังนี้

ราคาน้ำดำ

  • แสดงราคาด้วยตัวอักษรสีดำ
  • เป็นค่าน้ำบอลที่มีค่าเป็นบวก
  • เมื่อชนะจะคิดเงินตามราคาน้ำ
  • เมื่อแพ้จะเสียเงินตามทุนที่วางเดิมพัน

ราคาน้ำแดง

  • แสดงราคาด้วยตัวอักษรสีแดง
  • เป็นค่าน้ำบอลที่มีค่าติดลบ
  • เมื่อชนะจะได้เงินเต็มจำนวนที่แทง
  • เมื่อแพ้จะคิดตามราคาน้ำ

จะเห็นได้ว่าค่าน้ำมาเลย์จะแบ่งสีอย่างชัดเจน ทำให้ง่ายต่อการเข้าใจสำหรับมือใหม่ รวมถึงการคํานวณก็ไม่ซับซ้อนมากนัก

ค่าน้ำฮ่องกง (HK)

ค่าน้ำฮ่องกง (HK)

ค่าน้ำฮ่องกง นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในเอเชีย เพราะมีราคาสูงกว่าทุน ปกติจะอยู่ที่ 1.2-1.5 ขึ้นไป ยกตัวอย่างเช่น แทงบอล 100 บาท ที่ค่าน้ำฮ่องกง 1.2 หากชนะ จะได้กําไร 120 บาท จุดเด่นของค่าน้ำฮ่องกงคือ ให้อัตราต่อรองสูง ทำให้น่าสนใจสำหรับนักพนัน

ค่าน้ำยุโรป (EU)

ค่าน้ำยุโรป (EU)

ค่าน้ำยุโรป หรือ ที่เรียกว่า “ค่าน้ำเดซิมอล” เป็นค่าน้ำที่นิยมใช้กันในเว็บแทงบอลยุโรป มีจุดเด่นคือให้อัตราต่อรองสูง โดยปกติจะอยู่ที่ 2.0-2.5 ขึ้นไป ยกตัวอย่างเช่น แทงบอล 100 บาท ที่ค่าน้ำ 2.2 หากชนะจะได้เงินกลับมา 220 บาท หักทุนออก เหลือกําไร 120 บาท

แม้ว่าค่าน้ำยุโรปจะให้อัตราต่อรองสูง แต่เมื่อหักทุนออกแล้วก็ไม่ได้ต่างจากค่าน้ำอื่นมากนัก อย่างไรก็ตาม ค่าน้ำยุโรปก็ยังคงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในหมู่นักพนัน

สรุปได้ว่า นอกเหนือจากค่าน้ำบอลอินโดนีเซียแล้ว ก็ยังมีค่าน้ำประเภทอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในแต่ละภูมิภาค เช่น ค่าน้ำมาเลย์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือค่าน้ำยุโรปสำหรับยุโรป ซึ่งล้วนแต่มีข้อดี ข้อเสีย และวิธีการคํานวณที่แตกต่างกันออกไป

ดังนั้นผู้เล่นจำเป็นต้องศึกษารายละเอียดของแต่ละค่าน้ำให้เข้าใจ และเลือกใช้ให้เหมาะสมกับตัวเอง เพื่อให้สามารถคํานวณและพนันบอลออนไลน์ได้อย่างถูกต้อง นําไปสู่ผลลัพธ์ที่คาดหวังไว้ได้ในที่สุด